วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553


เกร็ดความรู้เกี่ยวกับอาหารข้างถนน
เกร็ดความรู้เพื่อความปลอดภัยของเพื่อนๆ และคนใกล้ตัวก็อยากให้เพื่อนๆช่วยๆกันบอกต่อๆกัน เพื่อความปลอดภัยของสังคมด้วยนะครับ เป็นคำบอกเล่าของเจ้าของร้านอาหารริมทางคนนึง ออกมาเผยความจริงให้รู้แก่พวกเรา ไว้เป็นเป็นเกร็ดความรู้ดีๆ




1.น้ำเปล่าที่ให้ดื่มคือน้ำก๊อก

2.ตะเกียบเก่าถูกๆ บางอันขึ้นรา

3.แก้วน้ำล้างแบบจุ่มๆ ไม่ใช้น้ำยา

4.ล้างจานแบบประหยัดน้ำสุดๆๆๆๆ

5.กระทะผัดซ้ำๆ นานๆล้าง สารก่อมะเร็ง

6.กระบวนการทำเนื้อสัตว์ต่างๆ ไม่ถูกอนามัย

7.น้ำมันเก่า ก่อมะเร็ง

8.ผัดกระเพราที่เพื่อนๆชอบกินกันมีผงชูรสเกือบ 1 ช้อนชาต่อจาน

9.น้ำปลา, น้ำส้มสายชูต่างๆ เอาของห่วยๆมาใส่ขวดยี่ห้อดีๆ

10.ข้าวที่ให้กินเป็นข้าวหอมมะลิปลอม

แนะนำเพื่อนๆว่าอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีที่สุดของเราต้องทำเองเท่านั้น

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550


พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้ “ระบบคอมพิวเตอร์” หมายความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมการทำงานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ
“ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย
“ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลาชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น

“ผู้ให้บริการ” หมายความว่า
(๑) ผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือในนามหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น

(๒) ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น

“ผู้ใช้บริการ” หมายความว่า ผู้ใช้บริการของผู้ให้บริการไม่ว่าต้องเสียค่าใช้บริการหรือไม่ก็ตาม

“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้

“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
หมวด ๑

ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

-----------------------------------------

มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๘ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐

(๑) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรือในภายหลังและไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท

(๒) เป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาทถ้าการกระทำความผิดตาม (๒) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี

มาตรา ๑๓ ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ





มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

(๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

(๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

(๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

(๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้

(๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑)(๒) (๓) หรือ (๔)

มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๔

มาตรา ๑๖ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทำไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือ บุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย

มาตรา ๑๗ ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักรและ

(๑) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือ

(๒) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหายและผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษจะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร

หมวด ๒

พนักงานเจ้าหน้าที่

-----------------------------------------
มาตรา ๑๘ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๙ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนและสอบสวนในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ เฉพาะที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิดและหาตัวผู้กระทำความผิด

(๑) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้มาเพื่อให้ถ้อยคำ ส่งคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือส่งเอกสาร ข้อมูล หรือหลักฐานอื่นใดที่อยู่ในรูปแบบที่สามารถเข้าใจได้

(๒) เรียกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จากผู้ให้บริการเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรือจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง

(๓) สั่งให้ผู้ให้บริการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่ต้องเก็บตามมาตรา ๒๖ หรือที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของผู้ให้บริการให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่

(๔) ทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นยังมิได้อยู่ในความครอบครองของพนักงานเจ้าหน้าที่

(๕) สั่งให้บุคคลซึ่งครอบครองหรือควบคุมข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ดังกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่

(๖) ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด อันเป็นหลักฐานหรืออาจใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือเพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดและสั่งให้บุคคลนั้นส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็นให้ด้วยก็ได้

(๗) ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด หรือสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ทำการถอดรหัสลับ หรือให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการถอดรหัสลับดังกล่าว

(๘) ยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์เท่าที่จำเป็นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียดแห่งความผิดและผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๑๙ การใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อมีคำสั่งอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามคำร้อง ทั้งนี้ คำร้องต้องระบุเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลใดกระทำหรือกำลังจะกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เหตุที่ต้องใช้อำนาจ ลักษณะของการกระทำความผิด รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดและผู้กระทำความผิด เท่าที่สามารถจะระบุได้ ประกอบคำร้องด้วยในการพิจารณาคำร้องให้ศาลพิจารณาคำร้องดังกล่าวโดยเร็วเมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้ว ก่อนดำเนินการตามคำสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสำเนาบันทึกเหตุอันควรเชื่อที่ทำให้ต้องใช้อำนาจตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) มอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐาน แต่ถ้าไม่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ณ ที่นั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งมอบสำเนาบันทึกนั้นให้แก่เจ้าของหรือ ผู้ครอบครองดังกล่าวในทันทีที่กระทำได้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าในการดำเนินการตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) ส่งสำเนาบันทึกรายละเอียดการดำเนินการและเหตุผลแห่งการดำเนินการให้ศาลที่มีเขตอำนาจภายในสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาลงมือดำเนินการ เพื่อเป็นหลักฐานการทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา ๑๘ (๔) ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ และต้องไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินกิจการของเจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเกินความจำเป็น การยึดหรืออายัดตามมาตรา ๑๘ (๘) นอกจากจะต้องส่งมอบสำเนาหนังสือแสดงการยึดหรืออายัดมอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐานแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งยึดหรืออายัดไว้เกินสามสิบวันมิได้ ในกรณีจำเป็นที่ต้องยึดหรืออายัดไว้นานกว่านั้น ให้ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอขยายเวลายึดหรืออายัดได้ แต่ศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งรวมกันได้อีกไม่เกินหกสิบวัน เมื่อหมดความจำเป็นที่จะยึดหรืออายัดหรือครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องส่งคืนระบบคอมพิวเตอร์ที่ยึดหรือถอนการอายัดโดยพลัน หนังสือแสดงการยึดหรืออายัดตามวรรคห้าให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๐ ในกรณีที่การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามที่กำหนดไว้ในภาคสองลักษณะ ๑ หรือลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้อง พร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับการทำให้แพร่หลายนั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นก็ได้

มาตรา ๒๑ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดมีชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์รวมอยู่ด้วย พนักงานเจ้าหน้าที่อาจยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอให้มีคำสั่งห้ามจำหน่ายหรือเผยแพร่ หรือสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นระงับการใช้ ทำลายหรือแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขในการใช้ มีไว้ในครอบครอง หรือเผยแพร่ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ดังกล่าวก็ได้ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ตามวรรคหนึ่งหมายถึงชุดคำสั่งที่มีผลทำให้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์หรือชุดคำสั่งอื่นเกิดความเสียหาย ถูกทำลาย ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมขัดข้อง หรือปฏิบัติงานไม่ตรงตามคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือโดยประการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงทั้งนี้ เว้นแต่เป็นชุดคำสั่งที่มุ่งหมายในการป้องกันหรือแก้ไขชุดคำสั่งดังกล่าวข้างต้น ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๒๒ ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปิดเผยหรือส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ให้แก่บุคคลใดความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับการกระทำเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ หรือเป็นการกระทำตามคำสั่งหรือที่ได้รับอนุญาตจากศาลพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดฝ่าฝืนวรรคหนึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๒๓ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๒๔ ผู้ใดล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ และเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๒๕ ข้อมูล ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามพระราชบัญญัตินี้ ให้อ้างและรับฟังเป็นพยานหลักฐานตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการสืบพยานได้ แต่ต้องเป็นชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจมีคำมั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือโดยมิชอบประการอื่น

มาตรา ๒๖ ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินเก้าสิบวันแต่ไม่เกินหนึ่งปีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้ ผู้ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการเท่าที่จำเป็นเพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการนับตั้งแต่เริ่มใช้บริการและต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง ความในวรรคหนึ่งจะใช้กับผู้ให้บริการประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ผู้ให้บริการผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท

มาตรา ๒๗ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๒๐ หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลตามมาตรา ๒๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทและปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง

มาตรา ๒๘ การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์และมีคุณสมบัติตามที่รัฐมนตรีกำหนด

มาตรา ๒๙ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีอำนาจรับคำร้องทุกข์หรือรับคำกล่าวโทษ และมีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในการจับ ควบคุม ค้น การทำสำนวนสอบสวนและดำเนินคดีผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ บรรดาที่เป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประสานงานกับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ให้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติและรัฐมนตรีมีอำนาจร่วมกันกำหนดระเบียบเกี่ยวกับแนวทางและวิธีปฏิบัติในการดำเนินการตามวรรคสอง

มาตรา ๓๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวต่อบุคคลซึ่งเกี่ยวข้อง บัตรประจำตัวของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์

นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์ได้เป็นส่วนสำคัญของการประกอบกิจการและการดำรงชีวิตของมนุษย์ หากมีผู้กระทำด้วยประการใด ๆ ให้ระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานตามคำสั่งที่กำหนดไว้หรือทำให้การทำงานผิดพลาดไปจากคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือใช้วิธีการใด ๆ เข้าล่วงรู้ข้อมูล แก้ไข หรือทำลายข้อมูลของบุคคลอื่นในระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ หรือใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จหรือมีลักษณะอันลามกอนาจาร ย่อมก่อให้เกิดความเสียหาย กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งความสงบสุขและศีลธรรมอันดีของประชาชน สมควรกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

ที่มา : ราชกิจจานุเบกษา

เล่มที่ ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก หน้า ๔ – ๑๓
ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐
บริการในอินเตอร์เน็ต(internet services)


บริการในอินเตอร์เน็ต

อินเตอร์เน็ต เปรียบเหมือนสังคมขนาดใหญ่ที่มีผู้เข้ามาร่วมใช้กันมากมาย ในระบบจึงมีการเตรียมบริการต่าง ๆ ไว้ให้เพื่อให้ผู้ใช้เข้ามาใช้งานต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

บริการที่มีในอินเตอร์เน็ต จะแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ ดังนี้

- บริการข้อมูลมัลติมีเดีย ด้วย World Wide Web

- บริการรับส่งข่าวสารด้วย E- mail

- บริการส่งผ่านไฟล์ข้อมูลด้วย FTP

- บริการค้นหาข้อมูลด้วย Archie , Gopher , Veronica , และ WAIS

- บริการประกาศข่าวสาร ด้วย UseNet

- บริการติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่อง ด้วย Tenet

เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web : WWW) เป็นบริการบนอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องมาจากลักษณะเด่นของเวิลด์ไวด์เว็บ ที่สามารถนำเสนอข้อมูลมัลติมีเดียที่แสดงได้ทั้งตัวหนังสือ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง ซึ่งมีอยู่มากมาย และสามารถรวบรวมลักษณะการใช้งานอื่นๆ ในระบบอินเทอร์เน็ตเอาไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ การถ่ายโอนข้อมูล การสนทนา การค้นหาข้อมูล และอื่นๆ ทำให้เวิลด์ไวด์เว็บเป็นแหล่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยการเข้าสู่ระบบเวิลด์ไวด์เว็บ จะต้องใช้โปรแกรมการทำงานที่เรียกว่า เว็บเบราเซอร์ (Web Browser) เป็นตัวเชื่อมเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งโปรแกรมเว็บเบราเซอร์ที่ได้รับความนิยมได้แก่ Internet Explorer และ Netscape Navigator

ลักษณะของเวิลด์ไวด์เว็บ คือ การนำเสนอข้อมูลต่างๆ มากมายในลักษณะหน้ากระดาษอิเล็กทรอนิกส์ ที่เรียกว่า เว็บเพจ (Web Page) เปรียบเสมือนหน้าหนังสือ หรือหน้านิตยสาร ซึ่งสามารถบรรจุข้อความ รูปภาพ และเสียงไว้ได้ด้วย โดยที่หน้าแรกของเว็บเพจ เรียกว่า โฮมเพจ (Home Page) ซึ่งภาษาที่ใช้ในการเขียนเว็บเพจ ให้สามารถดูได้ในเวิลด์ไวด์เว็บ เรียกว่า HTML (Hypertext Markup Language)
เมื่อเราเอาเว็บเพจหลายๆ เว็บเพจมารวมกันในแหล่งเดียวกัน เราเรียกว่า เว็บไซต์ (Web Site) เว็บไซต์แต่ละที่จะถูกเก็บไว้ในเว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server) แต่ละแห่ง โดยแต่ละแห่งก็จะมีโฮสต์ของตนเองทำหน้าที่ดูแลและพัฒนาข้อมูล ซึ่งโดยปกติจะเปิดอิสระให้ทุกคนเข้าไปเปิดดูข้อมูลได้ ขอเพียงแต่ให้ผู้ใช้ทราบที่อยู่ของเว็บเซิร์ฟเวอร์นั้นๆ ซึ่งที่อยู่นี้เรียกว่า ยูอาร์แอล (Uniform Resource Locator - URL) ซึ่งแต่ละยูอาร์แอลจะมีชื่อไม่ซ้ำกัน เช่น www.hotmail.com และ www.inet.co.th เป็นต้น ส่วนประกอบของยูอาร์แอลมักจะเขียนดังตัวอย่างนี้
โฮมเพจหรือเว็บเพจของแต่ละเว็บไซต์ จะมีทั้งข้อความและรูปภาพ ซึ่งตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เอกสารเหล่านี้จะมีข้อความที่บรรจุอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นหัวข้อ กลุ่มคำ หรือรูปภาพที่สัมพันธ์กับเนื้อหา แต่ไม่ได้แสดงเนื้อหาทั้งหมดไว้ในหน้าเดียว หากแต่มีคำสำคัญที่เน้นเป็นจุดเด่น มีสีสันชัดเจน หรือขีดเส้นใต้ไว้ ซึ่งโดยทั่วไปถ้าเราเอาเมาส์ไปวางไว้บนข้อความหรือรูปภาพนั้นๆ สัญลักษณ์ของเมาส์ก็จะเปลี่ยนจากรูปลูกศรมาเป็นรูปมือ ถ้าหากผู้ใช้ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ก็คลิกที่ข้อความหรือรูปภาพนั้น เว็บเพจที่เกี่ยวข้องกับข้อความหรือรูปภาพนั้นก็จะถูกเปิดขึ้นมา ลักษณะเช่นนี้เราเรียกว่าการเชื่อมโยงด้วย ไฮเปอร์ลิงก์ (Hyperlink) ซึ่งทำให้เราสามารถเชื่อมโยงหรือลิงก์ไปยังเว็บเพจอื่นๆ ในเว็บไซต์เดียวกัน และลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ได้อย่างไม่จำกัด

Thai E-mail Marketing

รับทำการตลาดด้วยอีเมล์
E-Marketing ย่อมาจากคำว่า Electronic Marketing หรือเรียกว่า “การตลาดอิเล็กทรอนิกส์” หมายถึงการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดโดยใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ทันสมัยและสะดวกต่อการใช้งาน เข้ามาเป็นสื่อกลาง ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือพีดีเอ ที่ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันด้วยอินเทอร์เน็ต มาผสมผสานกับวิธีการทางการตลาด การดำเนินกิจกรรมทางการตลาด อย่างลงตัวกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายขององค์กรอย่างแท้จริง ซึ่งในรายละเอียดของการทำการตลาด E-Marketing จะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. เป็นการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายในลักษณะเฉพาะเจาะจง (Niche Market)

2. เป็นลักษณะเป็นการสื่อสารแบบ 2 ทาง (2 Way Communication)

3. เป็นรูปแบบการตลาดแบบตัวต่อตัว (One to One Marketing หรือ Personalize Marketing) ที่ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายสามารถกำหนดรูปแบบสินค้าและบริการได้ตามความต้อง การของตนเอง

4. มีการกระจายไปยังกลุ่มผู้บริโภค (Dispersion of Consumer)

5. เป็นกิจกรรมที่นักการตลาดสามารถสื่อสารไปยังทั่วทุกมุมโลก ตลอด 24 ชั่วโมง (24 Business Hours)

6. สามารถติดต่อสื่อสาร โต้ตอบ ปฏิสัมพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว (Quick Response)

7. มีต้นทุนต่ำแต่ได้ประสิทธิผล สามารถวัดผลได้ทันที (Low Cost and Efficiency)

8. มีความสัมพันธ์กับกิจกรรมการตลาดแบบดั้งเดิม (Relate to Traditional Marketing)

9. มีการตัดสินใจในการซื้อจากข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ (Purchase by Information)

E-Marketing เป็นส่วนผสมแนวความคิดทางการตลาด และทางเทคนิค รวมเข้าไว้ด้วยกันทั้งด้าน การออกแบบ (Design), การพัฒนา (Development), การโฆษณาและการขาย (Advertising and Sales) เป็น ต้น (ตัวอย่างกิจกรรมได้แก่ Search Engine Marketing, E-mail Marketing, Affiliate Marketing, Viral Marketing ฯลฯ) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจและลูกค้า เนื่องจากระบบทางอิเล็กทรอนิกส์สามารถสนับสนุนการร้องขอข้อมูลของลูกค้า การจัดเก็บประวัติ และพฤติกรรมของลูกค้าเอาไว้ รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ ส่งผลต่อ การเพิ่มและรักษา ฐานลูกค้า (Customer Acquisition and Retention) และอำนวยประโยชน์ในการประกอบธุรกิจอย่างครบถ้วน

ในขณะที่ การตลาดแบบดั้งเดิม (Traditional Marketing) จะมีรูปแบบที่แตกต่างจาก E-Marketing อย่างชัดเจน โดยการตลาดแบบดั้งเดิมนั้นจะมีกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย จะไม่เน้นทำกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และมักจะใช้วิธี การแบ่งส่วนตลาด (Marketing Segmentation) โดยใช้เกณฑ์สภาพประชากรศาสตร์ หรือสภาพภูมิศาสตร์ และสามารถครอบคลุมได้บางพื้นที่ ในขณะที่ถ้าเป็น E-Marketing จะสามารถครอบคลุมได้ทั่วโลกเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ธุรกิจต่างๆ จึงได้ให้ความสนใจกับอินเทอร์เน็ตเป็นอย่างมาก รวมถึงได้มีการนำเอาแนวคิด E-Marketing มาประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลาย เพื่อทำการตลาดออนไลน์ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

มั่นใจได้อย่างไรว่าอีเมล์มีผู้ใช้งานจริง!!

อีเมล์ของเราจะเป็นอีเมล์ที่ใหม่ซึ่งทีมงานจะดูดมาใหม่อยู่ตลอด เพื่อที่จะมาแทนอีเมล์เก่า อาทิเช่น วันนี้ดูดอีเมล์มาใหม่ได้ 10,000เมล์ เราก็จะลบเมล์เก่าออกหนึ่งหมื่นเมล์ ทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าเมล์ของเรานั้นจะเป็นอีเมล์่ที่ยังมีผู้งานจริง

อีเมล์ของเรามาจากไหน

เมล์ของเรานั้นได้ดูดมาจากเว็บไซต์ดังต่างๆในประเทศได้แก่ thaisecondhand, pantip, pramool, dek-d, thaimsn, postjung,haapuen, wanjai, sanook, hunsa, kapook, teenee, jobth, jobpub, เว็บหางานต่างๆ เว็บหาเพื่อนต่างๆ เว็บขายสินค้า และอื่นๆ Inbox Hotmail

5 เหตุผลที่คุณไม่ควรปฏิเสธ E-Mail Marketing

Email marketing ก็คือการทำการตลาดตรงหรือ Direct Marketing นั่นแหละครับ โดยใช้ Email เป็นเครื่องมือสื่อสารในสิ่งที่เราต้องการเสนอไปยังกลุ่มเป้าหมายเพื่อหวังผ ลทางการตลาด เช่น เพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บ เพิ่มยอดขาย สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าหรือสมาชิก หาลูกค้าใหม่ หรือ เพิ่มรายได้จาก email ที่ส่งไป หรือ เพิ่มเงิน / สิ่งของบริจาคในกรณีของมูลนิธิต่าง ๆ เป็นต้น

สาเหตุที่ทำให้ E-Mail Marketing แพร่หลายมากในปัจจุบันและเป็น เหตุผลที่ที่คุณไม่ควรปฏิเสธ Email Marketing ได้แก่

1.ค่าจัดทำและค่าส่งไม่แพง

คุณลองนึกดูซิครับว่า หากคุณต้องการส่งโบรชัวร์สินค้าใหม่ล่าสุดพิมพ์ลงบนกระดาษ A 4 ถึงมือลูกค้าและสมาชิก 2 , 000 ราย แต่วิธีที่ส่งของคุณคือ ทางไปรษณีย์หรือ Direct Mail ค่าใช้จ่ายเพื่อทำการส่งแต่ละครั้งก็จะประกอบอะไรบ้างล่ะครับ ค่าออกแบบในกรณีที่ไม่มี graphic designer ของตัวเอง ค่าพิมพ์ ค่าจัดส่ง และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่มักละเลยคือ เปอร์เซ็นต์ของการตีกลับ หรือ จำนวนจดหมายที่ไม่ถึงมือ ซึ่งมากน้อยไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับคุณภาพของฐานข้อมูลลูกค้าหรือสมาชิก ความผิดพลาดของไปรษณีย์ คิดๆดูก็มากโขอยู่เหมือนกัน ตรงกันข้ามกับการส่ง Email สิ่งที่คุณต้องจ่ายเพื่อการส่ง Email แต่ละครั้ง ผู้สันทัดกรณีให้ข้อมูลเราว่า Email มันถูกกว่า Direct Mail ถึง 10 เท่า

2.รวดเร็วและแม่นยำ

หากจะเทียบขั้นตอนการทำ Email marketing กับ direct mail แล้ว การส่ง email นั้นมีกนะบวนการที่สั้นกว่ามาก นับตั้งแต่การออกแบบและเตรียมรายชื่อจนมาถึงการจัดส่ง email ออกไปโดยเฉลี่ยแล้วไม่เกิน 1 -อาทิตย์ก็สามารถส่งถึงมือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ ยิ่งมี email template ไว้แล้วกระบวนการยิ่งสั้นลง (From Desktop-to-Desktop) นั่นหมายความว่าเราสามารถประหยัดเวลาเพื่อไปทำกรรมอื่นๆได้มากขึ้น ในขณะที่การส่ง Direct Mail แบบดั้งเดิมนั้นต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนตั้งแต่

การออกแบ บ >>> จัดทำอาร์เวิร์ค >>> กระบวนการพิมพ์ >>>Lettershopping >>> จัดส่งไปรษณีย์ หรือ ทีที่รับบริการส่งจดหมาย >>> Mail ถึงมือผู้รับ

ซึ่งต้องใช้เวลาในการจบกระบวนการนานกว่ามาก

3.เห็นผลเร็วกว่าDirectMail

ด้วยความรวดเร็วและประสิทธิภาพของ Email ทำให้ผู้ส่งสามารถรับรู้การตอบสนองของผู้รับที่มีต่อ Email ได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็น % ของการเปิด email(Open Rate) , % การของการคลิ๊กสินค้าที่นำเสนอใน email (CTR) ,email % ของการเห็นเนื้อหาของ Email (impression rate) เป็นต้น ในขณะที่ Direct Mail แบบเก่า คุณอาจจะไม่ทราบเลยว่า mail ที่คุณส่งไปจะได้รับการเมินหรือสนใจจากผู้รับสักกี่เปอร์เซ็นต์

4.ตรงกลุ่มเป้าหมาย

หากคุณต้องการที่จะเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มให้ได้ผลโดยใช้ Online Tool การส่ง E-Mail ไปยังกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเช่นสมาชิก นับว่าเป็นเครื่องมือที่สนองความต้องการของคุณได้มากพอสมควร แต่การที่จะเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มนั้น จำเป็นต้องอาศัยฐานข้อมูลลูกค้าที่ดีพอสมควร เพราะหากคุณมีเพียงแค่ e-mail โดยขาดข้อมูลที่จำเป็นอื่นๆ ของลูกค้าเช่น ประเภทสินค้าหรือบริการที่ลูกค้าชอบ พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า เป็นต้น ก็คงต้องใช้วิธีหว่าน E-Mail ซึ่งไม่ใช่ Spam นะครับ ในกรณีนี้เป็นการส่งแบบไม่เลือกกลุ่มเป้าหมายแต่โอกาสจะคลิ๊กเปิดเมลล์ หรือ คลิ๊กเพื่อสั่งซื้อสินค้าของคุณอาจจะน้อยกว่า แต่หากคุณมีข้อมูลของฐานข้อมูลลูกค้าของคุณลึกพอ แบบว่าคุณสามารถระบุได้ว่าลูกค้ารายใดนิยมซื้อสินค้าประเภทใด เป็นต้น แนะนำให้คุณ Customize Email ไปเลยดีกว่า เช่นถ้าคุณขาย DVD/VCD หนัง และสามารถแบ่งลูกค้าที่นิยมซื้อ DVD ประเภท แอ็คชั่น หรือ ตลก เป็นกลุ่ม A กับ กลุ่ม B ตามลำดับ คุณก็สามารถส่ง E-mail Update หนังแนวแอ็คชั่นให้กับกลุ่ม A และ Update หนังแนวตลกให้กับกลุ่ม B ก็ได้ และ โอกาสได้รับการคลิ๊กก็สูงขึ้นด้วย

5.ส่งEmailเพื่อการตลาดนั้นง่ายแสนง่าย

เหตุที่มันง่ายแสนง่าย เพราะว่าในปัจจุบันมี เว็บไซด์ และ Software มากมายที่ช่วยให้คุณสามารถส่ง E-Mail ได้เป็นหมื่นๆ ภายในพริบตา เช่น เว็บไซต์เรา
คุณสมบัติของ Thai E-mail marketing
สามารถส่งอีเมล์ได้ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นแบบข้อความหรือแบบหน้าเว็บ(html)
สามารถส่งe-mailได้หลายฉบับต่อหนึ่งครั้ง
สามารถส่งe-mailแบบแนบไฟล์ได้
สามารถส่ง e-mail แบบอีเมล์ปลอมได้ (กรณีที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน)

Thai E-Mail Marketing Pricing

แพคเ็กจ ราคา จำนวนอีเมล์ ระยะเวลาส่งงาน แถมป้ายโฆษณา

1. 500 บาท 20,000 ฉบับ 3 วัน ***

2. 1,000 บาท 50,000 ฉบับ 5 วัน 7 วัน

3. 1,900 บาท 100,000 ฉบับ 10 วัน 1 เดือน

4. 9,000 บาท 500,000 ฉบับ 50 วัน 6 เดือน

5. 12,500 บาท 700,000 ฉบับ 70 วัน 9 เดือน

6. 18,000 บาท 1,000,000 ฉบับ 100 วัน 15 เดือน

** ป้ายโฆษณาติดที่เว็บไซต์ ThaiMovie3G.Com UIP7000+/วัน PR3 ขนาด 120x120 ตำแหน่งผู้สนับสนุน B **

- ระยะเวลาส่งงาน ปรับให้เร็วขึ้นได้ตามความต้องกา้ร (โทรมาสอบถาม)

- สำหรับลูกค้าที่ไม่มี ป้ายโฆษณา เรายินดีจัดทำให้ฟรี!

หลักฐานที่ท่านจะได้รับ

ขั้นตอนการสั่งซื้อ
โอนเงินมาที่
ชื่อบัญชี : Nattapol C.

เลขบัญชี : 095-2-23321-3 ชื่อบัญชี : Nattapol C.

เลขบัญชี : 117-244661-7 ชื่อบัญชี : Nattapol C.

เลขบัญชี : 046-0-27297-4

รายละเอียดที่ท่านต้องแจ้ง

1.YourEmailอีเมล์ที่ใช้ส่ง

2.YourNameชื่อท่านชื่อร้านค้าชื่อเว็บไซต์

3.Reply-Toอีเมล์ที่ใช้รับเวลาลูกค้ากดตอบกลับ

4.รูปแบบPlain(ข้อความธรรมดา)หรือHTML(ข้อความสีสันและรูปภาพ)

5.Subjectหัวข้ออีเมล์

6. Message Box :เนื้อหาอีเมล์

วิธีแจ้งการโอนเงิน

1. โทรแจ้งรายละเอียดต่างๆที่เบอร์08-6666-886324ชม.

2.Faxโทรขอหลังโอนเงิน(ไม่ได้เปิดเครื่องไว้ตลอด)

3.แจ้งการโอนเงินทางอีเมล์ที่blackcodexp@hotmail.com

ตัวอย่างการส่งเมล์

หัวข้อแจ้งการโอนเงินสั่งซื้อโฆษณาทางอีเมล์

ข้อความ

สั่งซื้อ แพตเกด 4. 9,000บาท จำนวน 500,000ฉบับ ระยะเวลา 100วัน

2. โอนเงินไป 9,000.66 บาท เมื่อ 21/01/53 (ธ.ไทยพาณิชย์)

ชื่อของท่าน

E-Mail

เบอร์ : (เพื่อมีปัญหาได้ติดต่อสะดวก)

รายระเอียดในการโฆษณา

1.YourEmailsoft666@gmail.com

2.YourNameSoft666

3.Reply-Tosoft666@gmail.com(เมล์ที่ใช้รับตอนกดตอบกลับ)

4.รูปแบบข้อความPlain

5. Subject : Thai E-mail Marketing รับทำการตลาดด้วยอีเมล์ รับส่งอีเมล์จำนวนมาก ยิงเมล์ บอมเมล์ราคาเริ่มต้นที่500บาท

6.MessageBox

Thai E-mail Marketing รับทำการตลาดด้วยอีเมล์ รับส่งอีเมล์จำนวนมาก ยิงเมล์ บอมเมล์ ราคาเริ่มต้นที่ 500บาท

FTP ย่อมาจากคำว่า File Transfer Protocal คือ มาตรฐานที่กำหนดใช้เพื่อการถ่ายโอนข้อมูลหรือการ Upload / Download ข้อมูลบน Internet ครับ โดยเราจะใช้โปรแกรมที่เรียกว่า FTP Client มาช่วยในการ Upload / Download ข้อมูลไปเก็บไว้ที่ Server เช่น โปรแกรม CuteFTP, WS_FTP, FileZilla ฯลฯ

ลักษณะการใช้งานเพื่อการ Upload / Download ข้อมูลก็เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน

โดยที่ผู้ใช้งานจะต้องมี User name และ Password ในการเข้าถึงไฟล์ข้อมูลที่อยู่บน Server ที่

ถูก Upload ขึ้นไปไว้นั่นเอง

• ปกติระบบ Windows เองเราสามารถใช้โปรแกรม Internet Explorer หรือ Windows Explorer ในการเข้าใช้งาน FTP ก็ได้ แต่เนื่องจากความแตกต่างของเวอร์ชั่นต่างๆ อาจเกิดปัญหาในการใช้งานและทำความยุ่งยากแก่ผู้ใช้ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องของ FTP ผมก็เลยอยากแนะนำให้ใช้งานจากโปรแกรม FTP Client จะดีกว่าและสะดวกรวดเร็วกว่าครับ ... ซึ่งโปรแกรมที่ผมจะแนะนำครั้งนี้ก็คือโปรแกรมFileZillaซึ่งเป็นโปรแกรม"ฟรี"

ขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม

ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา

• เลือก Option การติดตั้งคลิก Next ไปตามรูปภาพได้เลย
• ตรงนี้ให้คลิกเลือก "Desktop Icon" ด้วยเพื่อให้สร้าง icon ที่หน้าจอ Desktop ของเราด้วย จะได้เรียกใช้ได้สะดวก

• เริ่มต้นใช้งาน

ดับเบิ้ลคลิกที่ icon ของโปรแกรม FileZilla ที่หน้าจอ Desktop

• ตั้งค่าใช้งานเบื้องต้น เพื่อการใช้งานที่ง่ายและสะดวกขึ้นอีกนิด

• ไปที่เมนู "Edit" --> "Settings..." คลิกเลือกตรงส่วนของ Interface -> Themes เลือกให้แสดง icon ใช้งานของโปรแกรมให้ใหญ่ขึ้น ก็ให้เลือกขนาด 32x32 คิดว่าคงพอดีนะครับ ... หรือใครอยากจะใช้เมนูเป็นภาษาไทยก็เลือกเปลี่ยนตรงส่วนของ "Language" ซึ่งภาษาไทยก็มีให้ใช้งานกันครับ
• การเพิ่มไซต์เพื่อใช้รับ-ส่งไฟล์ ซึ่งเราจะต้องได้รับ User name และ Password จากผู้ให้บริการ FTP Server ก่อน ... คลิกที่ Tool bar ของโปรแกรมหรือจะเลือกที่เมนู "File" -> "Site Manager..." ดูตามภาพเลยครับ
• เราก็เพิ่มไซต์และกรอกข้อมูลของเราลงในช่องให้ถูกต้อง ตามขั้นตอนในภาพครับ ... ส่วนตรงช่อง User: ถ้าเราเป็นเจ้าของโดเมนหรือเจ้าของเว็บไซต์เองให้ใช้ User name ปกติโดยไม่มี @mydomain.com และถ้าเป็น User ย่อยของเว็บไซต์เราต้องกรอกให้เต็มโดยใช้ @mydomain.com ต่อชื่อ User ของเราไปด้วยครับ ... กรอกเรียบร้อยแล้วก็คลิก OK
• เริ่มใช้งานโดยเลือกไซต์ที่เราได้ตั้งเอาไว้แล้ว ... แล้วโปรแกรมก็จะ Connect ให้โดยอัตโนมัติ
• เริ่มใช้งานก็ง่ายๆครับ ...ถ้าอยากส่งไฟล์เราก็คลิกเม้าส์ปุ่มขวาที่ไฟล์บนเครื่องของเรา เลือกเมนู Upload และถ้าจะเอาไฟล์มาจากเว็บไซต์เราก็เลือกที่เม้าส์ปุ่มขวาที่ไฟล์ฝั่งของ Server เลือก Download

WWW

ระบบบริการสถานี (World Wide Web)

เป็นที่นิยมกันอย่างสูงในปัจจุบัน ไม่เฉพาะข้อมูลโฆษณาสินค้า ยังรวมไปถึงข้อมูลทางการแพทย์ การเรียน งานวิจัยต่างๆ เพราะเข้าถึงกลุ่มผู้สนใจได้ทั่วโลก ตลอดจนข้อมูลที่นำเสนอออกไป สามารถเผยแพร่ ได้ทั้งข้อมูลตัวอักษร ข้อมูลภาพ ข้อมูลเสียง และภาพเคลื่อนไหว มีลูกเล่นและเทคนิคการนำเสนอ ที่หลากหลาย อันส่งผลให้ระบบ WWW เติบโตเป็นหนึ่ง ในรูปแบบบริการ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ ระบบอินเทอร์เน็ต

ลักษณะเด่นของการนำเสนอข้อมูลเว็บเพจ คือ สามารถเชื่อมโยงข้อมูลไปยังจุดอื่นๆ บนหน้าเว็บได้ ตลอดจนสามารถเชื่อมโยงไปยังเว็บอื่นๆ ในระบบเครือข่าย อันเป็นที่มาของคำว่า HyperText หรือข้อความที่มีความสามารถ มากกว่าข้อความปกตินั่นเอง จึงมีลักษณะคล้ายกับว่าผู้อ่านเอกสารเว็บ สามารถโต้ตอบกับเอกสารนั้นๆ ด้วยตนเอง ตลอดเวลาที่มีการใช้งานนั่นเอง

。 E-Mail

ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail or E - mail)

จดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรือที่เรียกย่อๆ ว่า e - mail เป็นวิธีติดต่อสื่อสารกันบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดยที่สามารถส่งเอกสารที่เป็นข้อความธรรมดา จนถึงการส่งเอกสารแบบมัลติมีเดียที่มีทั้งภาพและเสียง ในการส่งผู้ที่ต้องการส่งและรับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จะต้องมี E-mail Address ที่แน่นอน

 FTP

การขนถ่ายแฟ้มข้อมูล (File Transfer Protocol)

FTP หรือ File Transfer Protocol เป็นบริการคัดลอกข้อมูลข้ามเครือข่าย โดย

ใช้ในการส่งข้อมูลจากเครื่องลูกไปยังเครื่องแม่ข่าย (Server)

ใช้ในการดาวน์โหลดข้อมูล จากเครื่องแม่ข่าย มาไว้ที่เครื่องลูก

การถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล หรือ FTP เป็นบริการอีกประเภทหนึ่งของอินเตอร์เน็ตเครือข่ายหลายแห่งเปิดบริการสาธารณะให้ผู้ใช้ภายนอกสามารถถ่ายโอนข้อมูล โดยไม่ต้องป้อนรหัสผ่านและถ่ายโอนได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แฟ้มข้อมูลที่ถ่ายโอน มีทั้งข้อมูลทั่วไป ข่าวสารประจำวัน บทความรวมถึงโปรแกรม

 USENET

กลุ่มสนทนาและข่าวสาร (Usenet User News Network)

Usenet ช่วยให้ผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ต่างระบบกันสามารถที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเรื่องต่าง ๆ เช่น การเสนอข้อคิดเห็น อภิปรายโต้ตอบตามกลุ่มย่อยที่เรียกว่า กลุ่มข่าว (News Group) ตามหมวดหมู่ที่มีการกำหนดไว้ หรืออาจจะกำหนดเพิ่มเติมก็ได้ เช่น กลุ่มผู้สนใจด้านศิลปะ, ด้านโปรแกรม เป็นต้น

ปัจจุบันเป็นบริการหนึ่งที่นิยม และมีการปรับรูปแบบให้อยู่ในรูปของเอกสาร HTML ทำให้สามารถเรียกดู และใช้งานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว

CHAT

สนทนาทางเครือข่าย

Talk เป็นบริการสนทนาทางเครือข่ายระหว่างผู้ใช้สองคนโดยไม่จำกัดว่าผู้ใช้ทั้งสองกำลังทำงานภายใน ระบบเดียวกัน หรือต่างระบบกัน ผู้ใช้ทั้งสองสามารถพิมพ์ข้อความโต้ตอบกันแบบทันทีทันใดได้พร้อมๆ กันข้อความที่พิมพ์ผ่านแป้นพิมพ์ จะไปปรากฏบนหน้าจอของ ผู้สนทนา การสนทนาบนเครือข่าย

อีกรูปแบบหนึ่งที่แพร่หลาย คือ IRC (Internet Relay Chart) ซึ่งเป็นการสนทนาทางเครือข่ายเป็นกลุ่มได้พร้อมกันหลายคน

Teleconference

บริการสืบค้นข้อมูลข้ามเครือข่าย

เครือข่ายอินเตอร์เน็ตในยุคเริ่มต้นเป็นเครือข่ายที่มีคอมพิวเตอร์ไม่กี่ร้อยเครื่องต่อเชื่อมกันอยู่ขนาดของเครือข่าย จึงไม่ใหญ่เกินไป สำหรับการขนถ่ายแฟ้มเพื่อการถ่ายโอน แต่เมื่ออินเตอร์เน็ตขยายตัวขึ้นมากและมีผู้ใช้งานแทบทุกกลุ่ม การค้นหาแฟ้มข้อมูลจึงยุ่งยากขึ้นด้วยเหตุนี้จึงมีการพัฒนาระบบ ARCHIE อำนวยความสะดวกช่วยในการค้นหาแฟ้ม และฐานข้อมูลว่าอยู่ที่เครื่องใด เพื่อจะใช้ FTP ขอถ่ายโอนได้ การบริการจะต้องใช้โปรแกรม Archie, Gopher, VERONICA และ WAIS

:Archie

เป็นวิธีการแบบง่าย ในการที่จะค้นหาสารสนเทศ ในลักษณะของ anonymous ftp พัฒนาจากมหาวิทยาลัย Mc Gill ใน Montreal ประเทศแคนาดา โปรแกรมนี้เป็นความพยายามอันแรก ที่จะใช้ระบบ Internet เป็น Catalog เพื่อเก็บและเผยแพร่ข้อมูล สารสนเทศบนเครือข่าย คุณสามารถส่งคำถาม ไปยังเครื่องที่บริการด้วย E-mail และเครื่องบริการก็จะตอบคำถามกลับมา

:Gopher

พัฒนาจากมหาวิทยาลัย Minnesota เป็นวิธีการซึ่งสามารถที่จะค้นหา และ รับข้อมูลแบบง่าย บน Internet โดยไม่ยุ่งยาก และสามารถรับข้อมูลได้หลาย แบบ เช่น ข้อความ เสียง หรือภาพ Gopher นั้น ทำงานผ่านเครือข่ายโดยอัตโนมัติ โดยมีตัวให้บริการ อยู่ทั่วไปบน Internet แต่ละตัวให้บริการ จะเก็บข้อมูลของตนเอง รวมถึงการเชื่อมโยงไปยังตัวให้บริการอื่นๆ ในการเข้าถึง Gopher ด้วย Gopher name

:Veronica

มาจากคำว่า Very Easy Rodent-Oriented Net-oriented Index to Computerized Archives ซึ่งพัฒนาจาก มหาวิทยาลัยแห่ง Nevada ซึ่งจะใช้การค้นหาด้วย Key Word ในทุกๆ ตัวให้บริการ และทุกๆ เมนู หรือเรียกอีกแบบหนึ่งได้ว่า เก็บดัชนีของทุกๆ ตัวให้บริการ ไว้ที่ Veronica

:WAIS

มาจากคำว่า Wide Area Information Sever สามารถใช้โปรแกรมนี้ ในการค้นหาแหล่งข้อมูล โดยใช้ภาษาแบบปกติ ไม่ต้องใช้โปรแกรมภาษาพิเศษ หรือภาษาของฐานข้อมูลในการค้น WAIS ทำงานโดยการรับคำร้อง ในการค้นและเปรียบเทียบ ในเอกสารต้นฉบับว่าเอกสารใด ตรงกับความต้องการ และส่งรายการทั้งหมดมายังผู้ที่ต้องการ

Push Technology

เป็นเทคโนโลยีการนำข้อมูลข่าวสารจากเว็บไซต์ที่เราชื่นชอบ ส่งมาที่คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ โดยผู้ใช้ไม่ต้องไปดึง (Pull) ข้อมูลจากเว็บไซต์เอง แต่เว็บไซต์จะผลัก (Push) ข้อมูลมาให้กับผู้ใช้อัตโนมัติ ส่วนใหญ่จะเป็นเว็บไซต์ประเภทข่าวสาร เช่น CNNPN , ABCNEWS เป็นต้น

ความหมาย

:Usenet มาจากคำว่า "User's Network" คือ ระบบนิวส์กรุ๊ป (newsgroup) หนึ่ง ที่มีส่วนให้อภิปรายมากกว่า 14,000 หัวข้อ เปรียบเสมือนบอร์ดข่าวสารบนอินเตอร์เนต ที่ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถนำวารสาร หรือความคิดเห็นของตนเองมาใส่ไว้ เพื่อให้ผู้อื่นได้อ่าน โดย Usenet จะมีกลุ่มสนทนาและเปลี่ยนข้อมูลในหัวข้อต่าง ๆ ที่เรียกว่า กลุ่มข่าว หรือ นิวส์กรุ๊ป (Newsgroup) และเพื่อสะดวกในการใช้งานของผู้ใช้ usenet จึงทำการแบ่งหมวดหมู่ โดยใช้ชื่อของกลุ่มข่าว เพื่อสื่อความหมาย เช่น comp เป็นประเภทกลุ่มข่าวคอมพิวเตอร์, misc เป็นประเภทกลุ่มข่าวสัพเพเหระทั่วไป ที่จัดกลุ่มไม่ได้ เป็นต้น

:User network เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ใหญ่ เป็นตัวอำนวยความสะดวกในอินเทอร์เน็ต (internet) อีกทีหนึ่ง เป็นผู้จัดการเกี่ยวกับเรื่องข่าวสารต่าง ๆ

หลักการทำงานUseNet ทำงานอย่างไร ?

1. UseNet อาจเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ กระดานข่าว ( bulletin board ) ระดับโลก ซึ่งเก็บรวบรวมข้อความหรือข่าวเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องต่าง ๆ นับพันเรื่องไว้ใน newsgroups ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเป็นอิสระที่ใครก็สามารถเข้าร่วมวงได้ newsgroups อาจพบได้ในโฮสต์คอมพิวเตอร์หลาย ๆ แห่งทั่วทั้งอินเตอร์เน็ต มี newsgroups อยู่นับเป็นพัน ๆ กลุ่มที่ครอบคลุมหัวข้อในเกือบทุก ๆ เรื่องที่คุณสามารถจะนึกขึ้นได้ รวมทั้งบางหัวข้อที่คุณอาจนึกไม่ถึงมาก่อนก็มี

2. ในการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ผู้คนจะส่งข่าวและอ่านข่าวที่ผู้อื่นส่งเข้ามาที่ newsgroups ซึ่งมี newsgroups อยู่สองประเภทนั่นคือแบบที่มีการตรวจ ( moderated ) และแบบที่ไม่มีการตรวจสอบ ( unmoderated)

3. ใน newsgroups แบบที่มีการตรวจสอบ ผู้ตรวจสอบที่เป็นคนจริง ๆ จะรับและอ่านข่าวทั้งหมดที่ส่งเข้ามาที่ newsgroups แล้วผู้ตรวจสอบนี้จะตัดสินใจว่าข่าวใดบ้างที่ควรหรือไม่ควรจะส่งเข้าไปตีพิมพ์ ( post )ลงใน newsgroups ข่าวใดที่ถูกจัดให้ลงใน newsgroups ก็จะถูกส่งไปยังคอมพิวเตอร์ที่เป็น server ส่วนที่เหลือก็จะถูกทิ้งไป ส่วนใน newsgroups ที่ไม่มีการตรวจสอบ ข่าวทั้งหมดจะถูก ส่งโดยตรงไปยัง server เลย ข่าวใน newsgroups ทั้งหมดจะถูกเก็บบน UseNet server โดยแบ่งเป็นหัวข้ออย่างกว้าง ๆ แล้วก็แตกเป็นหัวข้อที่ละเอียดลงไป

4. UserNet server ทั้งหมดจะติดต่อถึงกัน ดังนั้นข่าวที่ส่งเข้าไปยังเซิร์ฟเวอร์หนึ่งก็จะถูกทำสำเนาส่งต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์อื่น ๆ แต่ถึงจะมี UserNet server อยู่มากมาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุก ๆ เซิร์ฟเวอร์จะเก็บ newsgroups ทุก ๆ กลุ่ม แต่ละที่จะพิจารณาเองว่าจะเก็บกลุ่มไหนไว้บ้าง

5. ไฟล์รูปภาพ มัลติมีเดีย และแม้กระทั่งไฟล์โปรแกรม ก็สามารถถูกส่งไปที่ newsgroups ได้ อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีที่ใช้ใน newsgroups ทำให้จำเป็นต้องเข้ารหัสไฟล์เหล่านี้ก่อนที่จะส่งมันเข้าในกลุ่ม และในการที่จะดูมันได้ คุณจะต้องโอนมันเข้ามายังคอมพิวเตอร์ของคุณก่อน แล้วก็ค่อยถอดรหัสมันด้วยซอฟต์แวร์พิเศษ วิธีการเข้ารหัสที่ใช้ใน newsgroups เรียกว่า UUencode ซึ่งมีโปรแกรมสำหรับการเข้าและถอดรหัสแบบนี้ใช้บนคอมพิวเตอร์ทุกประเภททั้งพีซี แมคอินทอช และ UNIX

6. ซอฟต์แวร์ตัวอ่าน newsgroups ทำให้คุณอ่านข่าวหรือบทความและตอบกลับไปยัง newsgroups ได้ ซอฟต์แวร์นี้จะช่วยให้คุณจัดการ newsgroups ของคุณได้ โดยให้คุณสมัครเข้าเป็นสมาชิกของ newsgroups เพื่อให้ข่าวใหม่ ๆ ถูกส่งมาหาคุณโดยอัตโนมัติ เมื่อคุณเข้าไปเชื่อมต่อที่เซิร์ฟเวอร์ และคุณยังสามารถที่จะยกเลิกการเป็นสมาชิกได้ด้วย

สรุปหลักการทำงาน Usenet

USENET คือ กลุ่มของ Newsgroup (คือ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้งานระบบเครือข่ายทุก ๆ คน สามารถส่งข้อความไว้และผู้อื่นที่สนใจก็จะสามารถเข้ามาอ่านได้) นับพัน ๆ กลุ่ม ในระบบอินเทอร์เน็ตซึ่งจะมีชื่อเรียกต่าง ๆ กันไปยูสเน็ตก็เหมือนกับแผ่นป้ายประกาศขนาดยักษ์ ซึ่งแผ่นนี้แบ่งเป็นส่วนย่อยๆมากมายมหาศาล ส่วนย่อยๆเหล่านี้ก็ว่าด้วยหัวข้อต่างๆกัน สุดแท้แต่จะมีใครอยากแลกเปลี่ยนข่าวสารหรืออยากพูดคุยอภิปรายกันในประเด็นใด ผู้อ่านป้ายประกาศยักษ์นี้ก็ได้แก่เหล่าสมาชิกอินเทอร์เน็ตทั่วทั้งโลกนั่นเอง ใครที่มีข่าวสารอยากจะกระจายให้ทั้งโลกรับรู้ก็สามารถประกาศได้บนยูสเน็ตนี้

การประยุกต์ใช้งานจริง

Usenet News เป็นอีกบริการหนึ่งในอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีลักษณะเป็นกลุ่มสนทนาเพื่อ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งคล้ายคลึงกับการเปิดเวทีสาธารณะให้ผู้คนทั่วโลก มาแสดงความคิดเห็นร่วมกัน โดยผู้ใช้สามารถสมัคร (Subscribe) เข้าเป็นสมาชิกกลุ่มหัวข้อใด ก็ได้ที่ตนเองสนใจโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อเป็นสมาชิกแล้วก็จะสามารถเรียก ดูข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่อยู่ภายในกลุ่มหัวข้อนั้นได้ และยังสามารถขอความคิดเห็นหรือร่วมแสดงความคิดเห็น สอบถามข้อปัญหา หรือตอบข้อปัญหาของผู้อื่นที่ถามมาในกลุ่มหัวข้อนั้น ๆ ได้ สำหรับ Usenet News ได้มีการจัดแบ่งเป็นกลุ่มหัวข้อต่าง ๆ พร้อมทั้งยังมีกลุ่มหัวข้อย่อยไว้มากมายนับพัน ๆ กลุ่ม เช่น กลุ่มการเมือง กลุ่มเทคนิคด้านคอมพิวเตอร์ กลุ่มดนตรี กลุ่มศิลปะ กลุ่มกีฬา เป็นต้น กลุ่มหัวข้อใน Usenet News เหล่านี้จะเรียกว่า Newsgroup และประเด็นข้อมูลข่าวสารในแต่ละกลุ่มหัวข้อจะเรียกว่า Article หากประสงค์ที่จะไม่ต้องการอ่านข่าวสารในกลุ่มหัวข้อนั้นอีก ก็สามารถยกเลิกการเป็นสมาชิก (Unsubscribe) ของกลุ่มหัวข้อนั้นได้รูปแบบของ Article ของคล้ายคลึงกับโครงสร้างของอีเมล์ ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วน คือ - ส่วนหัว เป็นส่วนที่บอกข้อมูลทางเทคนิคที่เกี่ยวกับ Article นั้น เช่น หัวข้อเรื่องอะไร ใครเป็นผู้ส่ง ส่งมาจากที่ไหน ลงวันที่เท่าไหร่ เป็นต้น ซึ่งส่วนหัวนี้จะมีรายละเอียดได้ไม่เกิน 20 บรรทัด - ส่วนเนื้อความ เป็นเนื้อหาของ Article นั้น - ส่วนท้าย เป็นส่วนที่บอกรายละเอียดของผู้ส่ง เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล์แอดเดรส และข้อความลงท้าย ซึ่งมีความยาวประมาณ 2-3 บรรทัด ซึ่งส่วนท้ายนี้อาจจะมีหรือไม่ก็ได้ เนื่องมาจากการที่มีกลุ่มหัวข้อต่าง ๆ ใน Usenet News เป็นจำนวนมาก จึงจัดเป็นประเภทได้โดยใช้ชื่อย่อนำหน้าของกลุ่มหัวข้อหลักประเภทต่าง ๆ ดังตัวอย่างในต่อไปนี้

ชื่อย่อ กลุ่มหัวข้อ

alt. Alternative หัวข้อหลากหลายเรื่องภายในกลุ่ม

biz. Business หัวข้อเกี่ยวกับธุรกิจ

Comp. Computer หัวข้อเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

human ities. Humanities หัวข้อเกี่ยวกับศิลปะ วรรณคดี ปรัชญา

misc. Miscellaneous หัวข้อทั่ว ๆ ไป ที่ไม่สามารถจัดให้อยู่ในกลุ่มใด ๆ ได้

news. News หัวข้อเกี่ยวกับ Usenet

rec. Recreation หัวข้อเกี่ยวกับสันทนาการและงานอดิเรกต่าง ๆ

sci. Science หัวข้อที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทุกสาขา

soc. Social หัวข้อที่เกี่ยวกับสังคมศาสตร์

talk. Talk หัวข้อเกี่ยวกับการพูดคุยถกปัญหากัน

กลุ่มหัวข้อต่าง ๆ จะมีชื่อคล้ายกับระบบโดเมน กล่าวคือจะประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลักคือ ชื่อกลุ่มหัวข้อหลัก ชื่อกลุ่มหัวข้อย่อยและอาจมีประเภทของกลุ่มหัวข้อย่อยในลำดับต่อไป แต่สำหรับในระบบของ Usenet News นั้นชื่อกลุ่มหัวข้อหลักจะอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนชื่อของกลุ่มหัวข้อย่อยรอง ๆ ลงไปจะอยู่ทางขวามือตามลำดับ โดยคั่นด้วยเครื่องหมายจุด ชื่อของกลุ่มหัวข้อ อาจจะมีความยาวไม่แน่นอน ตัวอย่างเช่น comp.ai.neural-nets คือ กลุ่มหัวข้อหลักด้านคอมพิวเตอร์ (computer) และมีความสนใจทางสาขาด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificail Intelligence) และสนใจในเรื่องของนิวรอล-เน็ตเวิร์ก (neural-netswork) หรือ sci.polymers คือ กลุ่มหัวข้อหลักด้านวิทยาศาสตร์ (science) ที่มีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องโพลิเมอร์ (polimers) เป็นต้น เมื่อในอดีตนั้นบริการ Usenet News ใช้โปรโตคอล UUCP (Unix-to-Unix Copy) ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารบนเครือข่าย ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาใช้โปรโตคอล NNTP (Network News Transmission Protocol) แทน โปรแกรมสำหรับใช้ในบริการ Usenet News นี้ก็มีมากมายหลายโปรแกรม เช่น โปรแกรม rn, tin และ rtin และยังสามารถใช้บริการในเครือข่าย WWW เพื่อใช้บริการ Usenet News ผ่านทาง Web Browser ได้เช่นกัน ปัจจุบันบนมีเว็บไซต์จำนวนมากได้เปิดให้บริการ Usenet News โดยจัดกลุ่มหัวข้อในลักษณะของไดเร็คทอรี ทำให้สามารถค้นหา กลุ่มหัวข้อที่น่าสนใจได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมที่ถูกสร้างมาเพื่อใช้อ่านข่าวโดยเฉพาะอย่างเช่น โปรแกรม Knews เป็นต้น

คำถามทดสอบ

1..Usenet คืออะไร

ก.บอร์ดข่าวสารบนอินเตอร์เน็ต ที่ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถนำข่าวสาร หรือความคิดเห็นของ ตนเองมาใส่ไว้ เพื่อให้ผู้อื่นได้อ่าน

ข.ระบบสารสนเทศ

ค.ระบบจัดส่งงาน

ง.ระบบจัดซื้อ

จ.ไม่มีข้อถูก



2.Usenet ย่อมาจากอะไร

ก.University

ข.Unicorn

ค.User Network

ง.Ukata

จ.ไม่มีข้อถูก



3.Usenet แบ่งได้กี่หมวดหมู่

ก.1

ข.2

ค.3

ง.ไม่จำกัด

จ.ถูกทุกข้อ



4.Usenet มีการทำงานเป็นระบบใด

ก.ใยแมงมุม

ข.เครือข่าย

ค.Organizetion

ง.In put

จ.ถูกทุกข้อ



5.ข้อใด คือ จุดประสงค์หลักการทำงาน Usenet

ก.การหาเพื่อน

ข.การหาแฟน

ค.การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ง.การติดต่อซื้อขาย

จ.ถูกทุกข้อ



6.ในอดีตนั้นบริการ Usenet News ใช้อะไรในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารบนเครือข่าย

ก.โปรเก็บเงิน

ข.โปรยิงเร็ว

ค.โปรโตซัว

ง.โปรโตคอล UUCP (Unix-to-Unix Copy)

จ.ไม่มีข้อถูก



7.ในปัจจุบันนั้นบริการ Usenet News ใช้อะไรในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารบนเครือข่าย

ก.โปรฟันไว

ข.โปรโตคอล NNTP (Network News Transmission Protocol)

ค.โปรโตคอล UUCP (Unix-to-Unix Copy)

ง.โปเตโต้

จ.ไม่มีข้อถูก



8.ระบบเครือข่าย Usenet มีกี่ User

ก.1

ข.2

ค.3

ง.4

จ.ไม่มีข้อถูก



9.ข้อใดกล่าวถูกเกี่ยวกับ Usenet

ก.บอร์ดข่าวสารบนอินเตอร์เนต

ข.ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถแชร์ข่าวสาร

ค.ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถแชร์ความคิดเห็น

ง.ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถถามตอบกันได้

จ.ถูกทุกข้อ



10.ข้อใดคือประโยชน์ Usenet

ก.รับฟังข่าว

ข.ติดต่อสื่อสาร

ค.หาความรู้

ง.ติดต่อซื้อขาย

จ.ถูกทุกข้อ



เฉลย

ก,ค,ง,ข,ค,ง,ข,จ,จ,จ
การบริการบนอินเตอร์เน็ต

การบริการบนอินเตอร์เน็ต การบริการต่างๆ บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์

• บริการด้านการรับส่งข่าวสารและแสดงความคิดเห็น

• บริการด้านการติดต่อสื่อสาร

• บริการการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล

• บริการค้นหาข้อมูล

• บริการข้อมูลมัลติมีเดีย

ด้านรับส่งข่าวสารบริการด้านการับส่งข่าวสารและแสดงความคิดเห็น

• ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail)

• Mailing List

• นิวส์กรุ๊ป (Newsgroup) หรือยูสเน็ต (UseNet)

• การสนทนา (Talk)

ด้านการติดต่อสื่อสาร บริการด้านการติดต่อสื่อสาร

• การขอเข้าใช้ระบบจากระยะไกล(Telnet)

• The Internet Telephone และ The Videophone

การถ่ายโอนข้อมูล บริการการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูลมี 2 ลักษณะ คือ

• การอัปโหลด (Upload)

• การดาวน์โหลด (Download)

การค้นหาข้อมูล บริการค้นหาข้อมูล

• อาร์คี (Archie)

• โกเฟอร์ (Gopher)

• Veronica

• เวส (Wide Area Information Server-WAIS)

• SearchEngine

ข้อมูลมัลติมีเดีย บริการข้อมูลมัลติมีเดีย

สามารถนำเสนอข้อมูลมัลติมีเดียที่แสดงได้ทั้งตัวหนังสือ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง ซึ่งมีอยู่มากมาย และสามารถรวบรวมลักษณะการใช้งานอื่นๆ ในระบบอินเทอร์เน็ตเอาไว้ด้วย ทำให้เวิลด์ไวด์เว็บเป็นแหล่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยการเข้าสู่ระบบเวิลด์ไวด์เว็บ จะต้องใช้โปรแกรมการทำงานที่เรียกว่า เว็บเบราเซอร์ (Web Browser) เป็นตัวเชื่อมเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งโปรแกรมเว็บเบราเซอร์ที่ได้รับความนิยมได้แก่ Internet Explorer และ Netscape Navigator

บริการด้านการรับส่งข่าวสารและแสดงความคิดเห็น

เป็นบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีเครื่องมือในการรับส่งข่าวสารและแสดงความคิดเห็น ระหว่างผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตหลายหลายวิธีการ ดังนี้

ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail)

อีเมล์ หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นบริการอินเทอร์เน็ตชนิดหนึ่งที่ผู้คนนิยมใช้มากที่สุด และเป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไป ให้สามารถติดต่อรับส่งข้อมูลระหว่างกันได้อย่างรวดเร็ว

อีเมล์ เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ ย่อมาจาก Electronic Mail ในภาษาไทยบางครั้งเรียกว่า จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนในพจนานุกรมศัพท์คอมพิวเตอร์ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ใช้คำว่า ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยอีเมล์เป็นวิธีการติดต่อสื่อสารด้วยตัวหนังสือแบบใหม่ แทนจดหมายบนกระดาษ แต่ใช้วิธีการส่งข้อความในรูปของสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ จากเครื่องคอมพิวเตอร์หนึ่งไปยังผู้รับอีกเครื่องหนึ่ง

อีเมล์แอดเดรส (E-mail Address) คือ ที่อยู่ในอินเทอร์เน็ต หรือที่อยู่ของตู้จดหมายของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ใช้สำหรับบอกตำแหน่งของผู้รับว่าอยู่ที่ไหน

ส่วนประกอบของอีเมล์แอดเดรส ประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ ดังตัวอย่างนี้

1. ชื่อบัญชีสมาชิกของผู้ใช้เรียกว่า user name อาจใช้ชื่อจริง ชื่อเล่น หรือชื่อองค์กรก็ได้

2. ส่วนนี้คือเครื่องหมาย @ (at sign) อ่านว่า "แอท"

3. ส่วนที่สามคือ โดเมนเนม (Domain Name) เป็นที่อยู่ของอินเทอร์เน็ตเซิร์ฟเวอร์ ที่เราสมัครเป็นสมาชิกอยู่ เพื่ออ้างถึงเมล์เซิร์ฟเวอร์

4. ส่วนสุดท้ายเป็นรหัสบอกประเภทขององค์กรและประเทศ ในที่นี้คือ .co.th โดยที่ .co หมายถึง commercial เป็นบริการเกี่ยวกับการค้า ส่วน .th หมายถึง Thailand อยู่ในประเทศไทย

Mailing List

หรือรู้จักกันทั่วไปในนามของ Listserv’s เป็นบริการที่ผู้ใช้สามารถเข้ากลุ่มร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อที่ตนเองสนใจโดยผ่านทางอีเมล์ โดยจดหมายที่ส่งเข้าสู่ระบบ Mailing List จะถูกส่งไปยังรายชื่อทั้งหมดที่ได้ลงทะเบียนไว้ในระบบ นอกจากนี้ยังใช้ในการลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่มีผู้ใช้สนใจด้วย

นิวส์กรุ๊ป (Newsgroup) หรือ ยูสเน็ต (UseNet)

นิวส์กรุ๊ป (Newsgroup) หรือ ยูสเน็ต (UseNet) คือ การรวมกลุ่มของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน เช่น กลุ่มที่สนใจเรื่องคอมพิวเตอร์ รถยนต์ การเลี้ยงปลา การปลูกไม้ประดับ เป็นต้น เพื่อส่งข่าวสารหรือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกัน ในลักษณะของกระดานข่าว (Bulletin Board) บนอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถเลือกหัวข้อที่สนใจและสามารถแสดงความคิดเห็นได้ โดยการส่งข้อความไปยังกลุ่ม และผู้อ่านภายในกลุ่มจะมีการร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นและส่งข้อความ กลับมายังผู้ส่งโดยตรงหรือส่งเข้าไปในกลุ่มเพื่อให้ผู้อื่นอ่านด้วยก็ได้

การสนทนา (Talk)

เป็นบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถพูดคุยโต้ตอบกับผู้ใช้คนอื่นๆ ที่เชื่อมต่อเข้าระบบอินเทอร์เน็ตในเวลาเดียวกัน โดยการพิมพ์ข้อความผ่านทางแป้นพิมพ์ พูดคุยผ่านทางคอมพิวเตอร์โดยมีการตอบโต้กันทันที การสนทนาผ่านทางอินเทอร์เน็ตนี้สามารถใช้โปรแกรมได้หลายโปรแกรม เช่น โปรแกรม Talk สำหรับการสนทนาเพียง 2 คน โปรแกรม Chat หรือ IRC (Internet Relay Chat) สำหรับการสนทนาเป็นกลุ่ม หรือโปรแกรมไอซีคิว (ICQ) เป็นการติดต่อสื่อสารกับคนอื่นๆ บนอินเทอร์เน็ตทางหนึ่ง คุณสมบัติที่โดดเด่นของไอซีคิวคือ การสนทนาแบบตัวต่อตัวกับคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ หรือสนทนาพร้อมกันหลายๆ คนก็ได้ และที่สำคัญคือการใช้ไอซีคิวนั้น ผู้ใช้สามารถเลือกสนทนากับใครโดยเฉพาะ และเลือกที่จะไม่สนทนากับผู้ที่ไม่พึงประสงค์ได้

เป็นบริการที่ผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสารกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อื่นได้ ในขณะที่นั่งอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของตนเอง ซึ่งมีหลายลักษณะดังนี้

การขอเข้าใช้ระบบจากระยะไกล (Telnet)

โปรแกรม Telnet เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อื่นๆ บนอินเทอร์เน็ต และสามารถใช้บริการสาธารณะต่างๆ เช่น บริการห้องสมุด ข้อมูลการวิจัย และสารสนเทศของเครื่องคอมพิวเตอร์เหล่านั้น ได้ราวกับว่ากำลังทำงานอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นๆ ช่วยให้ไม่ต้องเดินทางไปทำงานอยู่หน้าเครื่องเหล่านั้นโดยตรง จึงถือเป็นบริการหลักที่สำคัญอย่างยิ่งของอินเทอร์เน็ต การใช้โปรแกรม Telnet ติดต่อกับคอมพิวเตอร์ในอินเทอร์เน็ตนั้น จำเป็นต้องได้รับสิทธิเป็นผู้ใช้ในระบบนั้นก่อน แต่ก็มีระบบคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายอยู่อีกจำนวนมากอนุญาตให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าใช้บริการได้

The Internet Telephone และ The Videophone

ปกติการสื่อสารทางโทรศัพท์ผู้ใช้จะต้องยกหูจากเครื่องรับโทรศัพท์และพูดข้อความต่างๆ ระหว่างผู้รับ-ผู้ส่ง แต่เมื่อใช้บริการอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นเครือข่ายการสื่อสารทั่วโลก ผู้ใช้สามารถเลือกหมายเลขโทรศัพท์ที่ต้องการติดต่อโดยพูดผ่านไมโครโฟนเล็กๆ และฟังเสียงสนทนาผ่านทางลำโพง ทั้งนี้ผู้ใช้จะต้องมีโปรแกรมสำหรับใช้งาน รวมทั้งใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นระบบมัลติมีเดีย
นอกจากนี้หากมีการติดตั้งกล้องวีดิทัศน์ ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของคู่สนทนาทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ เข้ากับระบบอินเทอร์เน็ตแล้ว ภาพที่ได้จากการทำงานของกล้องวีดิทัศน์ ก็สามารถส่งผ่านไปทางอินเทอร์เน็ตถึงผู้รับได้ การสนทนาทางโทรศัพท์ จึงปรากฏภาพของคู่สนทนาทั้งผู้รับและผู้ส่ง บนจอคอมพิวเตอร์ไปพร้อมกับเสียงด้วย

บริการการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล หรือบริการ FTP (File Trasfer Protocol) เป็นบริการของอินเทอร์เน็ตอย่างหนึ่งที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนิยมใช้ โดยผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ข้อมูลตัวหนังสือ รูปภาพ เสียง วีดิโอ หรือโปรแกรมต่างๆ ซึ่งการถ่ายโอนข้อมูลนั้นมีอยู่ 2 ลักษณะคือ

1. การถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลที่อยู่ในเครื่องของเราไปยังคอมพิวเตอร์ที่เป็นโฮสต์ (Host) เรียกว่า การอัปโหลด (Upload) ทำให้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นสามารถใช้งานจากข้อมูลของเราได้

2. การที่เราถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลจากโฮสต์อื่นมายังคอมพิวเตอร์ของเราเรียกว่า การดาวน์โหลด (Download)



ในการนำดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ มาใช้นั้น มีบริการอยู่ 2 ประเภท คือ Private FTP หรือ เอฟทีพีเฉพาะกลุ่ม นิยมใช้ตามสถานศึกษาและภายในบริษัท ผู้ใช้บริการจะต้องมีรหัสผ่านเฉพาะจึงจะใช้งานได้ ประเภทที่สองคือ Anonymous FTP เป็นเอฟทีพีสาธารณะให้บริการดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลฟรีโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ซึ่งปัจจุบันมีบริการในลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโปรแกรมซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ที่ทางบริษัทต่างๆ คิดค้นขึ้นมาและต้องการเผยแพร่ไปสู่สาธารณชน ก็จะนำโปรแกรมมานำเสนอไว้ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคนใดสนใจก็สามารถใช้เอฟทีพีดึงเอาโปรแกรมเหล่านั้นมาใช้งานได้ โดยโปรแกรมที่สามารถดาวน์โหลดได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เรียกว่า ฟรีแวร์ (Freeware) และโปรแกรมที่สามารถดาวน์โหลดมาทดลองใช้ก่อน ซึ่งหากพอใจก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อตัวโปรแกรม เรียกว่า แชร์แวร์ (Shareware)

เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นระบบขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมกว้างขวางทั่วโลก โดยมีแฟ้มข้อมูลต่างๆ มากมายหลายพันล้านแฟ้มบรรจุอยู่ในระบบเพื่อให้ผู้ใช้สามารถสืบค้นใช้งาน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีระบบหรือโปรแกรมเพื่อช่วยในการค้นหาแฟ้มได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

อาร์คี (Archie) เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการค้นหาแฟ้มที่เราทราบชื่อ แต่ไม่ทราบว่าแฟ้มนั้นอยู่ในเครื่องบริการใดในอินเทอร์เน็ต โปรแกรมนี้จะสร้างบัตรรายการแฟ้มไว้ในฐานข้อมูล เมื่อต้องการค้นว่าแฟ้มนั้นอยู่ในเครื่องบริการใด ก็เพียงแต่เรียกใช้อาร์คีแล้วพิมพ์ชื่อแฟ้มข้อมูลที่ต้องการนั้นลงไป อาร์คีจะตรวจค้นฐานข้อมูลและแสดงชื่อแฟ้มพร้อมรายชื่อเครื่องบริการที่เก็บแฟ้มนั้นให้ทราบ เมื่อทราบชื่อเครื่องบริการแล้วก็สามารถใช้เอฟทีพีเพื่อถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล มาบรรจุลงในคอมพิวเตอร์ของเราได้

โกเฟอร์ (Gopher) เป็นโปรแกรมค้นหาข้อมูลและขอใช้บริการด้วยระบบเมนู โกเฟอร์เป็นโปรแกรมที่มีรายการเลือกเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ในการค้นหาแฟ้มข้อมูล ความหมาย และทรัพยากรอื่นๆ เกี่ยวกับหัวข้อที่ระบุไว้ โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องทราบและใช้รายละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงอยู่กับอินเทอร์เน็ต สารบบ หรือชื่อแฟ้มข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น เราเพียงแต่เลือกอ่านในรายการเลือกและกดแป้น Enter เท่านั้นเมื่อพบสิ่งที่น่าสนใจ ในการใช้นี้เราจะเห็นรายการเลือกต่างๆ พร้อมด้วยสิ่งที่ให้เลือกใช้มากขึ้นจนกระทั่งเราเลือกสิ่งที่ต้องการและมีข้อมูลแสดงขึ้นมา เราสามารถอ่านข้อมูลหรือเก็บบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ของเราได้

Veronica เป็นโปรแกรมค้นหาข้อมูลที่พัฒนาขึ้นมาจากการทำงานของระบบโกเฟอร์ เพื่อช่วยในการค้นหาข้อมูลที่ต้องการโดยไม่ต้องผ่านระบบเมนูตามลำดับขั้นของโกเฟอร์ เพียงแต่พิมพ์คำสำคัญ (Keyword) ลงไปให้ระบบค้นหาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคำนั้นๆ แทน

เวส (Wide Area Information Server-WAIS) เป็นโปรแกรมสำหรับใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยสืบค้นข้อมูล โดยการค้นจากเนื้อหาข้อมูลแทนการค้นตามชื่อของแฟ้มข้อมูล จากฐานข้อมูลจำนวนมากที่กระจายอยู่ทั่วโลก การใช้งานผู้ใช้ต้องระบุชื่อเรื่อง หรือ ชื่อคำหลักที่เกี่ยวกับเนื้อหาข้อมูลที่ต้องการค้น หลังจากใช้คำสั่งค้นหาข้อมูล โปรแกรมเวสจะช่วยค้นไปยังแหล่งข้อมูลที่ต่อเชื่อมกันอยู่ในอินเทอร์เน็ต โดยจะพยายามค้นเอกสารที่เกี่ยวข้องตรงกับคำค้น หรือวลีสำคัญที่ผู้ใช้การค้นหาให้มากที่สุด

Search Engines เป็นเครื่องมือช่วยค้นหาข้อมูลในระบบอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งเป็นลักษณะของโปรแกรมช่วยการค้นหาซึ่งมีอยู่มากมายในระบบอินเทอร์เน็ต โดยการพัฒนาขององค์กรต่างๆ เช่น Yahoo, Infooseek, Alta Vista, HotBot, Excite เป็นต้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลสารสนเทศต่างๆ โดยผู้ใช้พิมพ์คำหรือข้อความ ที่เป็น keyword เข้าไป โปรแกรม Search Engines ก็จะแสดงรายชื่อของแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องขึ้นมา ซึ่งเราสามารถคลิกไปที่รายชื่อต่างๆ เพื่อเข้าไปดูข้อมูลตัวนั้นๆ ได้ หรือจะเลือกค้นจากหัวข้อในหมวดต่างๆ (Categories) ที่ทาง Search Engines ได้แสดงไว้เป็นเมนูต่างๆ โดยเริ่มจากหมวดที่กว้างจนลึกเข้าไปสู่หมวดย่อยได้

เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web : WWW) เป็นบริการบนอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องมาจากลักษณะเด่นของเวิลด์ไวด์เว็บ ที่สามารถนำเสนอข้อมูลมัลติมีเดียที่แสดงได้ทั้งตัวหนังสือ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง ซึ่งมีอยู่มากมาย และสามารถรวบรวมลักษณะการใช้งานอื่นๆ ในระบบอินเทอร์เน็ตเอาไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ การถ่ายโอนข้อมูล การสนทนา การค้นหาข้อมูล และอื่นๆ ทำให้เวิลด์ไวด์เว็บเป็นแหล่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยการเข้าสู่ระบบเวิลด์ไวด์เว็บ จะต้องใช้โปรแกรมการทำงานที่เรียกว่า เว็บเบราเซอร์ (Web Browser) เป็นตัวเชื่อมเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งโปรแกรมเว็บเบราเซอร์ที่ได้รับความนิยมได้แก่ Internet Explorer และ Netscape Navigator

ลักษณะของเวิลด์ไวด์เว็บ คือ การนำเสนอข้อมูลต่างๆ มากมายในลักษณะหน้ากระดาษอิเล็กทรอนิกส์ ที่เรียกว่า เว็บเพจ (Web Page) เปรียบเสมือนหน้าหนังสือ หรือหน้านิตยสาร ซึ่งสามารถบรรจุข้อความ รูปภาพ และเสียงไว้ได้ด้วย โดยที่หน้าแรกของเว็บเพจ เรียกว่า โฮมเพจ (Home Page) ซึ่งภาษาที่ใช้ในการเขียนเว็บเพจ ให้สามารถดูได้ในเวิลด์ไวด์เว็บ เรียกว่า HTML (Hypertext Markup Language)

เมื่อเราเอาเว็บเพจหลายๆ เว็บเพจมารวมกันในแหล่งเดียวกัน เราเรียกว่า เว็บไซต์ (Web Site) เว็บไซต์แต่ละที่จะถูกเก็บไว้ในเว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server) แต่ละแห่ง โดยแต่ละแห่งก็จะมีโฮสต์ของตนเองทำหน้าที่ดูแลและพัฒนาข้อมูล ซึ่งโดยปกติจะเปิดอิสระให้ทุกคนเข้าไปเปิดดูข้อมูลได้ ขอเพียงแต่ให้ผู้ใช้ทราบที่อยู่ของเว็บเซิร์ฟเวอร์นั้นๆ ซึ่งที่อยู่นี้เรียกว่า ยูอาร์แอล (Uniform Resource Locator - URL) ซึ่งแต่ละยูอาร์แอลจะมีชื่อไม่ซ้ำกัน เช่น www.hotmail.com และ www.inet.co.th เป็นต้น ส่วนประกอบของยูอาร์แอลมักจะเขียนดังตัวอย่างนี้

โฮมเพจหรือเว็บเพจของแต่ละเว็บไซต์ จะมีทั้งข้อความและรูปภาพ ซึ่งตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เอกสารเหล่านี้จะมีข้อความที่บรรจุอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นหัวข้อ กลุ่มคำ หรือรูปภาพที่สัมพันธ์กับเนื้อหา แต่ไม่ได้แสดงเนื้อหาทั้งหมดไว้ในหน้าเดียว หากแต่มีคำสำคัญที่เน้นเป็นจุดเด่น มีสีสันชัดเจน หรือขีดเส้นใต้ไว้ ซึ่งโดยทั่วไปถ้าเราเอาเมาส์ไปวางไว้บนข้อความหรือรูปภาพนั้นๆ สัญลักษณ์ของเมาส์ก็จะเปลี่ยนจากรูปลูกศรมาเป็นรูปมือ ถ้าหากผู้ใช้ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ก็คลิกที่ข้อความหรือรูปภาพนั้น เว็บเพจที่เกี่ยวข้องกับข้อความหรือรูปภาพนั้นก็จะถูกเปิดขึ้นมา ลักษณะเช่นนี้เราเรียกว่าการเชื่อมโยงด้วย ไฮเปอร์ลิงก์ (Hyperlink) ซึ่งทำให้เราสามารถเชื่อมโยงหรือลิงก์ไปยังเว็บเพจอื่นๆ ในเว็บไซต์เดียวกัน และลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ได้อย่างไม่จำกัด

บริการอินเทอร์เน็ตต่างๆ

1. Telnet หรือ SSH

เครื่องมือพื้นฐาน ที่ใช้ติดต่อเครื่องบริการ (Server) เพื่อเข้าควบคุมการทำงานของเครื่อง ปิดเปิดบริการ รับส่งเมล ใช้พัฒนาโปรแกรม เป็นต้น โปรแกรมนี้มีมาพร้อมกับการติดตั้ง TCP/IP ผู้ใช้สามารถเรียกใช้จาก c:\windows\telnet.exe แต่การใช้งานเป็นแบบ Text Mode ที่ผู้ใช้ต้องเรียนรู้คำสั่งให้เข้าใจก่อนใช้งาน ในอดีตผู้ใช้มักใช้โปรแกรม Pine ในเครื่องบริการสำหรับรับส่งอีเมล ก่อนการใช้ POP3 และ Web-Based จะแพร่หลาย โปรแกรม PINE ถูกพัฒนาโดยนักศึกษามหาวิทยาลัย WASHINGTON University

+ telnet.org

+ wikipedia.org



--------------------------------------------------------------------------------

2. อีเมล (e-mail หรือ Electronic Mail)

อีเมล คือ บริการกล่องจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ให้ผู้ใช้สามารถรับ และส่งอีเมลในอินเทอร์เน็ต เพื่อประโยชน์ด้านการสื่อสาร ปัจจุบันบริการอีเมลผ่าน Web-Based Mail ได้รับความนิยมอย่างมาก จึงมีหลายบริษัทเปิดให้บริการฟรีอีเมล เช่น hotmail.com, yahoo.com, thaimail.com, chaiyo.com, lampang.net, thaiall.com

บริการอีเมลที่ได้รับความนิยมมี 2 ประเภทคือ Web-Based Mail และ POP3 บริการแบบ POP3 นั้นผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดอีเมลจากเครื่องบริการเมลไปเก็บไว้ในเครื่องของตน จึงเปิดอ่านอีเมลเก่าได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เหมาะกับผู้ใช้ในสำนักงานที่มีเครื่องเป็นของตนเอง โปรแกรมที่ใช้เปิดอีเมลแบบ POP3 เช่น Outlook Express, Eudora หรือ Netscape Mail เป็นต้น

+ www.thaiall.com/article/mail.htm



--------------------------------------------------------------------------------

3. USENET News หรือ News Group

ในยุคแรกของอินเทอร์เน็ต มีผู้ใช้บริการ USENET อย่างแพร่หลาย เพราะเป็นแหล่งข้อมูลให้สืบค้นขนาดใหญ่ สามารถส่งคำถาม เข้าไปตอบคำถาม แสดงความคิดเห็น ทำให้เกิดสังคมของการแลกเปลี่ยนข่าวสาร ปัจจุบันมีการใช้งาน USENET น้อยลง เพราะผู้ใช้หันไปใช้เว็บบอร์ดซึ่งเข้าถึงได้ง่าย และเป็นที่แพร่หลายกว่า ปัจจุบันเชื่อว่าเยาวชนรู้จัก http://www.pantip.com มากกว่า news://soc.culture.thai



--------------------------------------------------------------------------------

4. FTP (File Transfer Protocal - บริการโอนย้ายข้อมูล)

บริการนี้ สามารถใช้ download แฟ้มผ่าน browser ได้เพราะการ download คือ การคัดลอกโปรแกรมจาก server มาไว้ในเครื่องของตน แต่ถ้าจะ upload แฟ้ม ซึ่งหมายถึง การส่งแฟ้มจากเครื่องของตน เข้าไปเก็บใน server เช่นการปรับปรุง homepage ให้ทันสมัย ซึ่ง homepage ของตนถูกจัดเก็บใน server ที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่ง จะต้องใช้โปรแกรมอื่น เพื่อส่งแฟ้มเข้าไปใน server เช่นโปรแกรม cuteftp หรือ wsftp หรือ ftp ของ windows

การ download นั้นไม่ยาก หากผู้ให้บริการยอมให้ใครก็ได้เข้าไป download แฟ้มใน server ของตน และผู้ใช้บริการรู้ว่าแฟ้มที่ต้องการนั้นอยู่ที่ใด แต่การ upload มักไม่ง่าย เพราะต้องใช้โปรแกรมเป็น และมีความเป็นเจ้าของในเนื้อที่ที่จะกระทำ รวมทั้งมี userid และ password เพื่อแสดงสิทธิในการเข้าใช้บริการ การศึกษาการส่งแฟ้มเข้าไปใน server อาจต้องหา บทเรียน ftp มาอ่านเพื่อศึกษาวิธีการส่ง หรือหาอ่านได้จาก เว็บที่ให้บริการ upload แฟ้ม ซึ่งมักเขียนไว้ละเอียดดีอยู่แล้ว

+ ipswitch.com (WS_FTP Client)

+ filezilla.sourceforge.net แนะนำโดย thaiopensource.org

+ www.thaiall.com/learn/useftp.htm



--------------------------------------------------------------------------------

5. WWW (World Wide Web)

บริการที่ต้องใช้โปรแกรม Web Browser เช่น FireFox, Netscape, Internet Explorer, Opera หรือ Neoplanet เพื่อเปิดดูข้อมูลจากเว็บไซต์ (Website) หรือโฮมเพจ (Homepage) จะได้ข้อมูลในลักษณะเป็นตัวอักษร ภาพ เสียง และภาพเคลื่อนไหว ในลักษณะสื่อผสม รวมทั้งการสั่งประมวลผล และตอบสนองแบบอินเทอร์แอ็กทีฟ (Interactive)

บริการนี้ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนนำมาใช้งานอย่างหลากหลาย เช่น ชมภาพยนต์ ฟังเพลงออนไลน์ เล่นเกมส์ ค้นข้อมูล ประมวลผลข้อมูลทางธุรกิจ ทำข้อสอบ การส่งเมล ติดต่อซื้อขาย ชำระเงินด้วยบัตรเครดิต หรือส่งโพสท์การ์ด เป็นต้น

+ class.yonok.ac.th

+ thaiall.com

+ uploadtoday.com
--------------------------------------------------------------------------------

6. Skype, Net2Phone, Cattelecom.com

บริการโทรศัพท์จากคอมพิวเตอร์ไปยังเครื่องรับโทรศัพท์ที่บ้าน (PC2Phone) และได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีอัตราค่าโทรศัพท์ถูกกว่า และผู้ให้บริการบางรายยังมีบริการ PC2Fax สำหรับส่ง Fax จากเครื่องคอมพิวเตอร์ไปเครื่องรับ Fax ที่สำนักงาน โดยชำระค่าบริการแบบ Pre-Paid และใช้บริการจนกว่าเงินที่จ่ายไว้จะหมด

แต่ถ้าโทรจากคอมพิวเตอร์ไปยังคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานได้ฟรี เพราะมีโปรแกรมหลายตัวที่มีความสามารถนี้ และฟรีเช่นกัน บาง

+ net2phone.com

+ skype.com

+ cattelecom.com
--------------------------------------------------------------------------------

7. Netmeeting

ในอดีต .. เป็นโปรแกรมที่มีชื่อมาก เพราะทำให้คนจากซีกโลกหนึ่ง สามารถติดต่อกับอีกซีกโลก ด้วยภาพ และเสียงจากคอมพิวเตอร์ ถึงคอมพิวเตอร์ คล้ายโทรศัพท์ แต่ไม่มีค่าโทรศัพท์ทางไกลไปต่างประเทศ เสียค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น

ผู้ใช้ต้อง download โปรแกรมมาติดตั้ง แต่ปัญหาที่สำคัญในการติดต่อสื่อสารแบบนี้ คือ ต้องการสื่อที่รองรับการสื่อสารด้วยความเร็วสูง เพราะการติดต่อด้วยเสียง อาจได้เสียงที่ไม่ชัดเจน หรือขาดหายระหว่างการสนทนา หากความเร็วในการเชื่อมต่อไม่เร็วพอ และเป็นไปไม่ได้ ถ้าใช้การเชื่อมต่อเว็บแคม (WebCam) แบบเห็นภาพร่วมด้วย ถ้ายังใช้ Modem 56 Kbps อยู่ แต่ถ้าใช้ ADSL ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องความเร็วอีกต่อไป

To Open Netmeeting in WinXP : Start, Run, conf.exe

+ microsoft.com

+ videofrog.com
--------------------------------------------------------------------------------

8. ICQ (I Seek You)

ในอดีต .. บริการนี้เป็น บริการที่เยี่ยมมาก และได้รับความนิยมจนไม่คิดว่าจะมีใครมาล้มได้ ผู้ใดที่มีโปรแกรม ICQ ไว้ในคอมพิวเตอร์ จะติดต่อกับเพื่อนที่ใช้โปรแกรม ICQ อยู่ได้อย่างสะดวก เพราะเมื่อเปิดเครื่อง โปรแกรมนี้จะแสดงสถานะของเพื่อนใน List ทันทีว่ามาแล้ว และพร้อมจะสนทนาด้วยหรือไม่ เปรียบเสมือนมี Pager ติดคอมพิวเตอร์ไว้ทีเดียว บริการนี้ ผู้ใช้ต้องไป download โปรแกรมมาติดตั้งฟรี เบอร์ที่ผมเคยใช้คือ 20449588

ปัจจุบันผู้คนหันไปใช้ MSN Messenger หรือ Yahoo Messenger

+ icq.com

+ msn.com (Webcam, Speaker, Microphone)

+ yahoo.com
--------------------------------------------------------------------------------

9. IRC (Internet Relay Chat)

ในอดีต .. บริการนี้คนไทยทุกวัย ชอบกันมาก โดยเฉพาะโปรแกรม PIRC เพราะทำให้สามารถสนทนากับใครก็ได้ที่ใช้โปรแกรม PIRC การสนทนากระทำผ่านแป้นพิมพ์ โดยไม่จำเป็นต้องเห็นหน้า หรือรับผิดชอบต่อสิ่งที่พิมพ์ออกไป หญิงอาจบอกว่าตนเป็นชาย นักเรียนมัธยมอาจบอกว่าตนเป็นนางงาม เด็กตจว. อาจบอกว่ากำลังเรียนต่อแอลเอ เป็นต้น

ใน IRC มักแบ่งเป็นห้อง โดยมีชื่อห้องเป็นตัวระบุหัวข้อสนทนา หรือสื่อให้รู้กันในกลุ่ม เช่น "ห้องวิธีแก้เหงา" หากใครต้องการสนทนาถึงวิธีแก้เหงา เข้าไปในห้องนั้น หรือเข้าหลายห้องพร้อมกัน สามารถเลือกสนทนากับใครเป็นการส่วนตัว หรือจะสนทนาพร้อมกันทั้งกลุ่ม เมื่อสนทนากันถูกคอก็สามารถ ที่นัด Meeting ตามร้านอาหาร เพื่อนสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หรือนัดสนทนากันใหม่ในเวลาที่สะดวกสำหรับวันต่อไป จึงทำให้ทุกเพศทุกวัย ชื่นชอบที่จะใช้บริการนี้อย่างมาก โดยเฉพาะคนที่ยังไม่มีคู่ชีวิต

ปัจจุบันผู้คนหันไปใช้ Messenger หรือ Web Chat

+ mirc.com

+ thaiirc.in.th



--------------------------------------------------------------------------------

แหล่งอ้างอิง



กิดานันท์ มลิทอง. เทคโนโลยีการศึกษาและนวัตกรรม. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2540.

นฤชิต แววศรีผ่อง และรุ่งทิวา ศิรินารารัตน์. คอมพิวเตอร์เบื้องต้น (เล่ม 5). กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2543.

ฝ่ายวิชาการคอมพิวเตอร์ สยามคอมพิวเตอร์. การใช้อินเตอร์เน็ตสำหรับผู้เริ่มต้น. กรุงเทพฯ : ไทยเจริญการพิมพ์, มปป.

วิทยา เรืองพรวิสุธิ์. เรียนรู้อินทราเน็ต ระบบเครือข่ายองค์กรยุคใหม่. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2542.

สุริยัน ศรีสวัสดิ์กุล. ระบบสื่อสารข้อมูลคอมพิวเตอร์. พิมพ์ครั้งที่ 2, กรุงเทพฯ : สกายบุ๊ค, 2540.

ลอง, ลารี่. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ. กรุงเทพฯ : เพียร์สัน เอ็ดดูเคชั่น อินโดไชน่า, 2543.

วิเศษศักดิ์ โคตรอาษา. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้. กรุงเทพฯ : เธิร์ดเวฟ เอ็ดดูเคชั่น, 2542

http://www.thaigoodview.com